วันเสาร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2552
วันพฤหัสบดีที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2552
วันพุธที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2552
วันพุธที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2552
วันศุกร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2551
ใช้ซ้ำอย่างปลอดภัย จากข่าวสด
"ใช้ซ้ำ"อย่างปลอดภัยเก็บเรื่องมาเล่าชนา ชลาศัย
การ "ใช้ซ้ำ" (Reuse) เป็นแนวทางหนึ่งในการลดขยะและช่วยลดภาวะโลกร้อนไปด้วยในตัวจากรายงานหัวข้อ "REUSE ลดขยะปลอดภัย" ในนิตยสาร "ชีวจิต" ฉบับเดือนธ.ค. ศุภรา กันตะพัฒนะ ให้ข้อมูลว่า วิธีการใช้ซ้ำ หรือ Reuse ทำได้เองโดยไม่ต้องผ่านโรงงาน 2 วิธีดังนี้ 1.นำกลับมาใช้ซ้ำด้วยวิธีการเดิม เช่น นำภาชนะที่เคยใส่อาหารมาใช้ใส่อาหารอีกครั้ง2.การนำกลับมาใช้ซ้ำโดยผ่านการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเพื่อใช้ประโยชน์ในรูปแบบใหม่ อะไรใช้ซ้ำได้บ้าง?อาทิ วัสดุแก้ว กระดาษ กระป๋องเหล็กหรืออะลูมิเนียม กล่อง กระป๋อง ขวด หรือภาชนะทำจากพลาสติก เสื้อผ้า ของเหลือใช้อื่นๆ ใช้ซ้ำอย่างไรให้ปลอดภัย?จากข้อมูลสำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และข้อมูลศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC) สรุปวิธีการใช้ซ้ำให้ปลอดภัย ดังนี้ 1.บรรจุภัณฑ์หรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วทุกชนิดสามารถใช้ซ้ำได้ หากไม่ได้ใช้กับอาหารหรือเครื่องดื่ม2.บรรจุภัณฑ์หรือวัสดุที่จะนำมาใช้ซ้ำกับอาหารและเครื่องดื่มจะต้องเป็น Food Grade เท่านั้น และหากต้องการใช้วัสดุที่ทำจากแก้วกับอาหาร ควรผ่านความร้อนเพื่อฆ่าเชื้อก่อนทุกครั้ง3.นอกจากแก้วแล้ว หากคิดจะใช้ซ้ำบรรจุภัณฑ์ชนิดอื่นกับอาหารและเครื่องดื่ม พึงระวังเรื่องต่อไปนี้- ภาชนะพลาสติกทุกชนิดที่มีปากกว้าง ทำความสะอาดง่าย สามารถใช้บรรจุอาหารที่อุณหภูมิปกติ หรือแช่เย็นแช่แข็งได้ ไม่เป็นอันตราย แต่ไม่ควรใส่อาหารหรือเครื่องดื่มที่มีรสเปรี้ยวจัด เผ็ดจัด- ภาชนะประเภทพลาสติกที่มีลักษณะคอแคบ ผิวขรุขระ หรือมีเหลี่ยมมุมมาก หากคิดจะใช้ซ้ำกับอาหารและเครื่องดื่ม ควรมั่นใจว่าได้ทำความสะอาดเป็นอย่างดีจนปลอดเชื้อ- ภาชนะพลาสติกทุกชนิด ไม่ควรใส่อาหารร้อนหรือผ่านการให้ความร้อน เช่น การนำเข้าไมโครเวฟ แม้ว่าการใช้ครั้งแรกจะระบุว่าใช้กับไมโครเวฟได้ เพราะตั้งใจผลิตมาให้ใช้ครั้งเดียว ภาชนะจึงบาง หากผ่านความร้อนบ่อยครั้งอาจปล่อยสารที่เป็นอันตรายได้ - กระป๋องโลหะที่เคยใส่อาหาร (อาหารกระป๋องต่างๆ) หากจะใช้ซ้ำกับอาหาร ควรแน่ใจว่าภายในไม่มีรอยขูดขีดที่ทำให้สารเคลือบผิวหลุดออกมาและไม่ควรใช้กับความร้อน- ถุงพลาสติกและกล่องใส่อาหาร รวมถึงฟิล์มยืดปิดอาหารที่ผ่านการใช้แล้ว ไม่ควรนำมาใช้กับอาหารอีกเป็นอันขาดคำแนะนำนี้ คงจะช่วยให้คุณพ่อบ้านคุณแม่บ้าน นัก Reuse สบายใจมากขึ้น
การ "ใช้ซ้ำ" (Reuse) เป็นแนวทางหนึ่งในการลดขยะและช่วยลดภาวะโลกร้อนไปด้วยในตัวจากรายงานหัวข้อ "REUSE ลดขยะปลอดภัย" ในนิตยสาร "ชีวจิต" ฉบับเดือนธ.ค. ศุภรา กันตะพัฒนะ ให้ข้อมูลว่า วิธีการใช้ซ้ำ หรือ Reuse ทำได้เองโดยไม่ต้องผ่านโรงงาน 2 วิธีดังนี้ 1.นำกลับมาใช้ซ้ำด้วยวิธีการเดิม เช่น นำภาชนะที่เคยใส่อาหารมาใช้ใส่อาหารอีกครั้ง2.การนำกลับมาใช้ซ้ำโดยผ่านการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเพื่อใช้ประโยชน์ในรูปแบบใหม่ อะไรใช้ซ้ำได้บ้าง?อาทิ วัสดุแก้ว กระดาษ กระป๋องเหล็กหรืออะลูมิเนียม กล่อง กระป๋อง ขวด หรือภาชนะทำจากพลาสติก เสื้อผ้า ของเหลือใช้อื่นๆ ใช้ซ้ำอย่างไรให้ปลอดภัย?จากข้อมูลสำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และข้อมูลศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC) สรุปวิธีการใช้ซ้ำให้ปลอดภัย ดังนี้ 1.บรรจุภัณฑ์หรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วทุกชนิดสามารถใช้ซ้ำได้ หากไม่ได้ใช้กับอาหารหรือเครื่องดื่ม2.บรรจุภัณฑ์หรือวัสดุที่จะนำมาใช้ซ้ำกับอาหารและเครื่องดื่มจะต้องเป็น Food Grade เท่านั้น และหากต้องการใช้วัสดุที่ทำจากแก้วกับอาหาร ควรผ่านความร้อนเพื่อฆ่าเชื้อก่อนทุกครั้ง3.นอกจากแก้วแล้ว หากคิดจะใช้ซ้ำบรรจุภัณฑ์ชนิดอื่นกับอาหารและเครื่องดื่ม พึงระวังเรื่องต่อไปนี้- ภาชนะพลาสติกทุกชนิดที่มีปากกว้าง ทำความสะอาดง่าย สามารถใช้บรรจุอาหารที่อุณหภูมิปกติ หรือแช่เย็นแช่แข็งได้ ไม่เป็นอันตราย แต่ไม่ควรใส่อาหารหรือเครื่องดื่มที่มีรสเปรี้ยวจัด เผ็ดจัด- ภาชนะประเภทพลาสติกที่มีลักษณะคอแคบ ผิวขรุขระ หรือมีเหลี่ยมมุมมาก หากคิดจะใช้ซ้ำกับอาหารและเครื่องดื่ม ควรมั่นใจว่าได้ทำความสะอาดเป็นอย่างดีจนปลอดเชื้อ- ภาชนะพลาสติกทุกชนิด ไม่ควรใส่อาหารร้อนหรือผ่านการให้ความร้อน เช่น การนำเข้าไมโครเวฟ แม้ว่าการใช้ครั้งแรกจะระบุว่าใช้กับไมโครเวฟได้ เพราะตั้งใจผลิตมาให้ใช้ครั้งเดียว ภาชนะจึงบาง หากผ่านความร้อนบ่อยครั้งอาจปล่อยสารที่เป็นอันตรายได้ - กระป๋องโลหะที่เคยใส่อาหาร (อาหารกระป๋องต่างๆ) หากจะใช้ซ้ำกับอาหาร ควรแน่ใจว่าภายในไม่มีรอยขูดขีดที่ทำให้สารเคลือบผิวหลุดออกมาและไม่ควรใช้กับความร้อน- ถุงพลาสติกและกล่องใส่อาหาร รวมถึงฟิล์มยืดปิดอาหารที่ผ่านการใช้แล้ว ไม่ควรนำมาใช้กับอาหารอีกเป็นอันขาดคำแนะนำนี้ คงจะช่วยให้คุณพ่อบ้านคุณแม่บ้าน นัก Reuse สบายใจมากขึ้น
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)