วันพุธที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2551

พ.ร.บ.ผลประโยชน์ทับซ้อน จากข่าวสด

พ.ร.บ.ผลประโยชน์ทับซ้อนคอลัมน์ คอลัมน์ที่13รัฐบาลชุดปัจจุบันประสบปัญหาการสรรหาตัว "คนนอก" เข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเพราะติดที่กฎหมายผลประโยชน์ทับซ้อน ที่นอกจากห้ามผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองทำงานในธุรกิจที่เกี่ยวข้องหลังจากดำรงตำแหน่งเป็นระยะเวลา 2 ปีแล้วยังห้ามไปถึง "ญาติ" ว่าจะเข้ามาทำงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้ด้วยพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคล และประโยชน์ส่วนรวม พ.ศ.2550 ระบุว่า ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หมายถึง(1) นายกรัฐมนตรี(2) รัฐมนตรี(3) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(4) สมาชิกวุฒิสภา(5) ข้าราชการการเมืองอื่นนอกจาก (1) และ (2) ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการการเมือง(6) ข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมืองตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายรัฐสภา(7) ผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(8) เจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งดำรงตำแหน่งอื่นตามที่คณะกรรมการป.ป.ช.กำหนด โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาขณะที่ "ญาติ" หมายถึง(1) บุพการีของตน(2) ผู้สืบสันดานของตน(3) พี่น้องร่วมบิดามารดาหรือร่วมบิดาหรือมารดาเดียวกันของตนหรือของคู่สมรส(4) ลุง ป้า น้า อาของตนหรือของคู่สมรส(5) บิดา มารดา ปู่ ย่า ตา ยายของคู่สมรส(6) บุตรของบุคคลตาม (3)(7) บุตรของบุคคลตาม (6) เฉพาะที่เป็นญาติของตนการกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ ให้ถือว่าเป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวมตามวรรคหนึ่ง(1) การกระทำที่บัญญัติไว้ในมาตรา 100 วรรคหนึ่ง มาตรา 101 และมาตรา 103 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542(2) การใช้ข้อมูลที่ตนได้รับหรือทราบจากการปฏิบัติราชการ การปฏิบัติหน้าที่ หรือในตำแหน่งหน้าที่โดยทุจริต(3) การใช้ทรัพย์สินของราชการหรือหน่วยงานของรัฐเพื่อประโยชน์ของตนเองหรือบุคคลอื่นซึ่งไม่มีสิทธิโดยทุจริต(4) การริเริ่ม เสนอ หรือจัดทำโครงการของรัฐที่มีเจตนาโดยทุจริตเพื่อจะเอื้อประโยชน์ต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม(5) การใช้อำนาจหน้าที่ซึ่งตนมีอยู่ไปมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจโดยอิสระในการใช้อำนาจตามตำแหน่งหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งดำรงตำแหน่งอื่นโดยทุจริตไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมมาตรา 6 ในกรณีที่บุคคลใดได้รับประโยชน์จากการกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือคู่สมรส หรือญาติของเจ้าหน้าที่ของรัฐตามมาตรา 5 ให้ถือว่าบุคคลนั้นมีส่วนร่วมในการกระทำความผิด และรับโทษเช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือคู่สมรสหรือญาติของเจ้าหน้าที่ของรัฐแล้วแต่กรณีเว้นแต่บุคคลนั้นจะพิสูจน์ได้ว่าตนมิได้มีส่วนรู้เห็นหรือยินยอมด้วยในการกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือคู่สมรสหรือญาติของเจ้าหน้าที่ของรัฐดังกล่าวมาตรา 8 บรรดาของขวัญ ของที่ระลึก เงิน หรือทรัพย์สินใดที่มีผู้มอบให้ในโอกาสที่เจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติงานตามตำแหน่งหน้าที่ของตน หรือราชการ หรือกิจการอื่นตามที่รับมอบหมาย แม้ว่าผู้มอบจะระบุให้เป็นการส่วนตัวก็ตาม ให้บรรดาสิ่งของหรือทรัพย์สินเหล่านั้นตกเป็นของรัฐทั้งสิ้น เว้นแต่เป็นสิ่งของหรือทรัพย์สินที่มีประกาศของคณะกรรมการป.ป.ช.ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐรับไว้เป็นของตนได้เจ้าหน้าที่ของรัฐที่ได้รับสิ่งของ หรือทรัพย์สินที่ตนไม่มีสิทธิรับไว้ตามวรรคหนึ่งต้องรายงานและส่งมอบสิ่งของหรือทรัพย์สินนั้นให้หน่วยงานที่ต้นสังกัดฯ

ไม่มีความคิดเห็น: